6 มกราคม 2567

กรณีตัวอย่างความผิดทางวินัยที่ได้ดำเนินการลงโทษไปแล้วของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

กรณีตัวอย่างความผิดทางวินัยที่ได้ดำเนินการลงโทษไปแล้วของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

ความผิดเกี่ยวกับนักเรียน
1. พูดนอกเรื่อง พูดสัปดน พูดสองแง่สองมุม พูดเรื่องส่วนตัวในขณะสอนเป็นประจำ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
2. พูดมึงกูกับนักเรียน เรียกชื่อพ่อแม่เป็นชื่อนักเรียน (ภาคทัณฑ์)
3. ด่านักเรียนว่า "พ่อแม่ไม่สั่งสอน หรือว่า พ่อแม่สอนให้ทำอย่างนี้" (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน
4. วางอำนาจ เกรี้ยวกราด ดูถูกเหยียดหยามนักเรียน (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
5. บอกข้อสอบนักเรียน (ลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น)
6. ให้นักเรียนช่วยตรวจข้อสอบ และให้คะแนนนักเรียนโดยไม่ตรวจกระดาษคำตอบ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
7. ออกข้อสอบที่มีข้อความเสียดสีผู้บริหารโรงเรียน และถ้อยคำบางคำไม่สุภาพ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
8. เป็นกรรมการคุมสอบ ไม่คุมสอบให้รัดกุม เป็นเหตุให้นักเรียนลอกคำตอบกัน (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
9. สั่งนักเรียนที่ต้องสอบแก้ "ร" แก้ "0" ให้ซื้ออุปกรณ์การแต่งรถมาให้แล้วจะสอบได้ (ปลดออก)
10. เก็บเงินจากนักเรียน อ้างว่าจะนำไปซื้อหนังสือมาให้นักเรียน แต่ไม่ได้ซื้อและไม่คืนเงินจนกระทั่งถูกร้องเรียนจึงคืนให้ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 2 เดือน)
11. ขอยืมเงินนักเรียนแล้วไม่ยอมใช้ ให้นักเรียนช่วยตรวจข้อสอบ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 2 เดือน)
12. ขโมยเงินนักเรียน (ปลดออก)
13. ริบสร้อยและแหวนจากนักเรียนแล้วไม่ยอมคืน ผู้ปกครองนักเรียนและผู้บริหารโรงเรียนต้องทวงถามหลายครั้งจึงได้ส่งคืน (ลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น)
14. ชวนนักเรียนหญิงดื่มเบียร์ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
15. พานักเรียนไปเที่ยวต่างจังหวัดโดยไม่ได้ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาและผู้ปกครองนักเรียนให้ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 2 เดือน)
16. ยุยงนักเรียนให้ขโมยเงินครู (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 2 เดือน)
17. ยุยงนักเรียนให้กระด้างกระเดื่องต่อผู้บริหารโรงเรียน (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 2 เดือน)
18. ครูชายจับมือ จับหน้าอก และจูบนักเรียนหญิง (ปลดออก)
19. ครูชายให้นักเรียนหญิงนวดขาแล้วดึงลงมากอด (ปลดออก)
20. ครูชายสั่งนักเรียนหญิงให้มาสอบแก้ตัวที่โรงเรียนในวันหยุดราชการเพียงคนเดียว แล้วถือโอกาส
ปลุกปล้ำ (ปลดออก)
21. ครูชายให้นักเรียนหญิงนอนหนุนตัก แล้วเอามือลูบหัวลูบแก้มในสวนสาธารณะ (ปลดออก)
22. ครูชายพานักเรียนหญิงไปทานอาหาร แล้วคะยั้นคะยอให้นักเรียนดื่มเบียร์ เมื่อนักเรียนดื่มเข้าไปแล้วมีอาการมึนก็พาเข้าโรงแรม แม้จะไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศต่อกันถึงขั้นได้เสีย ก็เป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง (ไล่ออก)
23. ครูชายได้เสียกับนักเรียนหญิง ไม่ว่านักเรียนจะสมัครใจหรือไม่ก็ตาม (ไล่ออก)
24. ครูชายทำตัวสนิทสนมกับนักเรียนหญิงจนเกินขอบเขต ผู้บริหารโรงเรียนตักเตือนแล้วไม่ยอมเชื่อฟัง (ลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น)
25. ครูชายพานักเรียนหญิงไปฟังเพลงและดูภาพยนตร์รอบค่ำกันสองต่อสอง (ลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น)
26. ลงโทษนักเรียนโดยวิธีตบหน้า ดึงหู กระชากผม (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
27. ลงโทษนักเรียนโดยวิธีหยิก ตบหลัง (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
28. ลงโทษนักเรียนโดยวิธีหักนิ้วไปด้านหลังมือ จนนักเรียนเกิดความเจ็บปวด (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
29. เฆี่ยนนักเรียนจนเนื้อแตก เลือดออก (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
30. ลงโทษนักเรียนโดยวิธีทุบหน้าอก เขกหัว (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
31. ลงโทษนักเรียนโดยใช้ป้ายแขวนคอแล้วให้ยืนหน้าห้อง และให้คลานรอบสนาม (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
32. ลงโทษนักเรียนโดยการเฆี่ยนจนมีบาดแผล และใช้พวงกุญแจตีที่ศีรษะนักเรียนจนศีรษะแตก(ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
33. ลงโทษนักเรียนโดยการชกและเตะ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
34. ลงโทษนักเรียนที่ทะเลาะกันโดยวิธีให้ต่อยกันที่หน้าเสาธง จนนักเรียนได้รับบาดเจ็บที่ดั้งจมูก(ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
35. ลงโทษนักเรียนโดยการเดินเหยียบและกดขยี้ลงบนมือจนนักเรียนได้รับบาดเจ็บ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 1 เดือน)
36. ลงโทษนักเรียนที่ทำเลขผิดด้วยการสั่งให้นักเรียนในห้องจำนวน 28 คน เขกหัวนักเรียนที่ทำเลขผิดคนละ 50 ครั้ง (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
37. ลงโทษนักเรียนโดยการตีด้วยไม้ไผ่ปลายแตก ยาว 1 ศอกเศษ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว ที่ศีรษะจนนักเรียนชักและสลบ จนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 วัน (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 2 เดือน)
38. ลงโทษนักเรียนโดยการเฆี่ยนด้วยเข็มขัดถึง 24 ที และให้แบกโต๊ะซึ่งมีน้ำหนักเกือบเท่าตัวนักเรียน เดินขึ้นเดินลงระหว่างชั้นที่ 2 ถึงชั้นที่ 3 (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 2 เดือน)
39. ลงโทษนักเรียนโดยใช้เหล็กยาวประมาณ 1 ศอก วัดโดยรอบได้ 2.5 ซม. ตีที่หัวไหล่จนได้รับบาดเจ็บ (ตัดเงินเดือน 5 %เป็นเวลา 2 เดือน)
ความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน
1. เจ้าหน้าที่การเงินยักยอกเงินบำรุงการศึกษาไปใช้ส่วนตัว (ไล่ออก)
2. เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ ลงชื่อในใบตรวจรับว่าของถูกต้องครบถ้วน ภายหลังปรากฏว่าไม่มีของที่ตรวจรับ (ลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น)
3. ครูดนตรีแอบเอาเครื่องดนตรีซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาไปจำนำ (ปลดออก)
4. มีหน้าที่อยู่เวร มารับเวรช้า มารับเวรแล้วออกไปทำธุระส่วนตัวข้างนอก (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
5. มีหน้าที่อยู่เวร ไม่ยอมมาอยู่เวร ทำให้เครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนถูกโจรกรรม (ลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น)
6. มาอยู่เวรแล้วขโมยทรัพย์สินของโรงเรียนเสียเอง (ไล่ออก)
7. ไม่ทำบัญชีการเงินและบัญชีพัสดุให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 2 เดือน)
8. มาสายบ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
9. กลับก่อนเวลาเลิกงานเสมอ ๆ (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
10. ให้เพื่อนลงชื่อมาทำงานแทน (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน ทั้ง 2 คน)
11. ลงชื่อมาปฏิบัติราชการแล้วไม่อยู่โรงเรียน (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
12. เข้าสอนช้าและเลิกสอนก่อนหมดเวลาเสมอ ๆ (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
13. ทิ้งชั่วโมงสอนไปทำธุระส่วนตัว (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
14. ไม่ไปสอนหนังสือติดต่อกันเกินกว่า 15 วันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (ไล่ออก)
15. หยุดราชการ 1 วัน ไปติดต่อขอยืมเงินเพื่อน เมื่อมาทำงานได้ยื่นใบลาป่วยต่อผู้อำนายการ (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 2 เดือน)
16. หยุดราชการไป 7 วัน เมื่อมาทำงานได้ยื่นใบลาป่วยพร้อมใบรับรองแพทย์ ปรากฏว่าแพทย์ลงความเห็นให้หยุดพัก 1 วัน แต่แก้ไขใบรับรองแพทย์เป็น 7 วัน (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 2 เดือน)
17. ส่งใบลาป่วยล่าช้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (ภาคทัณฑ์)
18. ขออนุญาตลากิจไปงานแต่งงานเพื่อน ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่อนุญาตก็ยังไป (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน )
11. ลงชื่อมาปฏิบัติราชการแล้วไม่อยู่โรงเรียน (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
12. เข้าสอนช้าและเลิกสอนก่อนหมดเวลาเสมอ ๆ (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
ความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเสื่อมเสีย
1. เมาสุราแล้วอาละวาด ทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน (ลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น)
2. เมาสุราแล้วด่าท้าทายผู้บังคับบัญชา (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 2 เดือน)
3. เมาสุราแล้วทำร้ายร่างกายเพื่อนครูด้วยกัน (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
4. เมาสุราแล้วนอนฟุบอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอ ไม่สามารถกลับไปสอนหนังสือได้ (ปลดออก)
5. ลงเวลามาทำงานแล้วแอบไปดื่มสุราที่ร้านข้างโรงเรียน ยังนำสุรามาดื่มที่โต๊ะทำงานและที่ห้องพยาบาลของโรงเรียนในเวลาราชการ (ปลดออก)
6. สูบเฮโรอีน (ปลดออก)
7. เล่นไฮโลว์ (การพนันบัญชี ก. ลำดับที่ 23) ที่บ้านพักครู (ปลดออก)
8. เล่นไพ่รัมมี่ (การพนันบัญชี ข. ลำดับที่ 21 ฎ) ขณะอยู่เวร (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 2 เดือน)
9. เล่นหวยใต้ดิน (ปลดออก)
10. ครูสตรีมีสามีแล้วยังไปพบปะให้ความสนิทสนมกับคนรักเก่าถึงขนาดเข้าไปในห้องนอน แต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศกัน สามีตามไปพบจึงเกิดการทะเลาะกันขึ้น (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
11. ครูชายมีบุตรภรรยาแล้ว ไปหลอกผู้หญิงว่ายังเป็นโสดอยู่ อยากแต่งงานด้วย ผู้หญิงหลงเชื่อและยอมมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย พอคลอดลูกก็ถูกครูชายทอดทิ้ง (ปลดออก)
12. ครูชายกับครูหญิงมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวต่อกัน ทั้ง ๆ ที่แต่ละฝ่ายมีคู่สมรสอยู่แล้ว (ไล่ออก)
13. ครูชายกับครูหญิงมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวถึงขั้นอยู่กินเยี่ยงสามีภรรยาอย่างเปิดเผยต่อกัน ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีคู่สมรสอยู่แล้ว เพียงแต่แยกกันอยู่เท่านั้น (ไล่ออก)
14. ครูชายมีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงที่เป็นภรรยาของผู้อื่น แม้หญิงนั้นจะเป็นฝ่ายยั่วยวนและมีความประพฤติไม่ดี ชอบมีความสัมพันธ์ทางเพศกับชายอื่นเสมอ ๆ ก็ถือว่าเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง (ปลดออก)
15. ครูสตรีมีคู่สมรสแล้วไปมีความสัมพันธ์ในทางชู้สาวกับสามีคนอื่นถึงขั้นได้เสียกัน (ไล่ออก)
16. ครูชายมีคู่สมรสแล้วไปมีความสัมพันธ์ในทางชู้สาวกับภรรยาของคนอื่นจนถึงขั้นได้เสียกัน (ไล่ออก)
17. ครูสตรีมีคู่สมรสแล้วไปมีความสัมพันธ์ในทางชู้สาวกับชายอื่นจนถึงขั้นได้เสียกัน แม้ชายผู้นั้นจะยังไม่มีคู่สมรสก็เป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง (ปลดออก)
18. ครูชายมีภรรยาแล้วแอบไปมีความสัมพันธ์ในทางชู้สาวกับหญิงอื่นจนถึงขั้นได้เสียกัน ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน แม้หญิงนั้นจะยังไม่มีคู่สมรสก็เป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง (ปลดออก)
19. ครูชายจดทะเบียนสมรสซ้อนและไม่รับผิดชอบครอบครัว (ปลดออก)
20. ครูสตรีจดทะเบียนสมรสกับชายอื่นทั้ง ๆ ที่รู้ว่าชายนั้นมีภรรยาและจดทะเบียนสมรสแล้ว (ปลดออก)
21. ครูชายเขียนจดหมายถึงภรรยาผู้อื่นในลักษณะชู้สาว (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
22. ครูชายปลุกปล้ำครูสตรีโรงเรียนเดียวกัน (ปลดออก)
23. ออกเช็คเด้งจนถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 3 เดือน (ปลดออก)
24. เป็นหนี้แล้วไม่ยอมชดใช้ตามกำหนด พอเจ้าหนี้มาทวงกลับท้าให้ไปฟ้องศาล (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
25. เอาทรัพย์สินของโรงเรียนไปเป็นของตนเอง (ปลดออก)
26. เรียกร้องเงินจากผู้ปกครองนักเรียนที่พาบุตรมาสอบเข้าเรียนต่อ โดยอ้างว่าจะช่วยให้เด็กสอบเข้าได้ (ปลดออก)
27. แต่งกายไม่สุภาพไปทำงาน ผู้บริหารโรงเรียนเตือนแล้วไม่ยอมฟัง (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
28. ทุจริตในการเบิกค่ารักษาพยาบาล (ไล่ออก)
29. ทุจริตในการเบิกค่าเช่าบ้าน (ไล่ออก)
30. ทุจริตในการเบิกค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าพาหนะ ในการเดินทางไปราชการ (ไล่ออก)
ความผิดเกี่ยวกับประชาชน
1. พูดจาไม่สุภาพกับผู้ปกครองนักเรียนซึ่งมาขอทราบเหตุผลที่บุตรของตนถูกครูลงโทษ (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
2. รับประทานอาหารแล้วไม่จ่ายเงิน เมื่อเจ้าของร้านมาฟ้องผู้อำนวยการ เกิดความโมโหกระชากคอเสื้อแล้วต่อยหน้า 2 – 3 ที (ปลดออก)
ความผิดต่อผู้บังคับบัญชา
1. ผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งให้อยู่เวร ไม่ยอมมาอยู่อ้างว่าลืม (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
2. ผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งให้คุมสอบนักเรียน ไม่ยอมคุม (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
3. ไม่ยอมส่งผลการสอบแก้ตัวของนักเรียนตามเวลาที่ผู้อำนวยการโรงเรียนกำหนด ทำให้โรงเรียนไม่สามารถแจ้งผลการเรียนตามกำหนด (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
4. ไม่เข้าประชุมตามคำสั่งผู้อำนวยการโรงเรียน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
5. ไม่ยอมส่งแผนการเรียนการสอนตามเวลาที่ผู้อำนวยการโรงเรียนกำหนด ต้องเตือนถึง 2 ครั้ง จึงส่ง(ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 1 เดือน)
6. ร้องเรียนไปยังกรมฯ ว่าผู้อำนวยการโรงเรียนทุจริตเงินราชการ ทั้งที่รู้อยู่ว่าไม่เป็นความจริง (ตัดเงินเดือน 5 % เป็นเวลา 2 เดือน)

22 พฤศจิกายน 2566

แนวปฏิบัติการรับนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับเพื่อเข้าศึกษาในสถานศึกษาสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้

แนวปฏิบัติการรับนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับเพื่อเข้าศึกษาในสถานศึกษาสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้




13 พฤศจิกายน 2566

การลงทะเบียนเรียน กศน. 3 ระดับ + ภาคเรียนสุดท้าย

การลงทะเบียนเรียน

1. ประถม สามารถลงทะเบียนภาคเรียนละไม่เกิน 14 หน่วย ภาคเรียนสุดท้ายไม่เกิน 17 หน่วย ปกติเรียน 4 ภาคเรียน 2 ปี

2.มัธยมศึกษาตอนต้น สามารถลงทะเบียนภาคเรียนละไม่เกิน 17 หน่วย ภาคเรียนสุดท้ายไม่เกิน 20 หน่วย ปกติเรียน 4 ภาค เรียน 2 ปี

3.มัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถลงทะเบียนภาคเรียนละไม่เกิน 23 หน่วย ภาคเรียนสุดท้ายไม่เกิน 26 หน่วย ปกติเรียน 4 ภาค เรียน 2 ปี

เกณฑ์การจบหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

1. ผ่านเกณฑ์การประเมินการเรียนรู้รายวิชาในแต่ละระดับการศึกษา ตามโครงสร้างหลักสูตร
1.1. ระดับประถมศึกษา ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต วิชาบังคับ 36 หน่วยกิต วิชาเลิอก 12 หน่วยกิต
1.2. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ไม่น้อยกว่า 56 หน่วยกิต วิชาบังคับ 40 หน่วยกิต วิชาเลิอก 16 หน่วยกิต
1.3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายไม่น้อยกว่า 76 หน่วยกิต วิชาบังคับ 44 หน่วยกิต วิชาเลือก32 หน่วยกิต
2. ผ่านการประเมินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต (กพช) ไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง
3. ผ่านการประเมินคุณธรรม ในระดับพอใช้ขึ้นไป
4. เข้ารับการประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

15 ตุลาคม 2566

คำสั่งกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ที่ 483/2566 เรื่อง ให้ยกเลิกคำสั่งและมอบหมายให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกาาปฏิบัติหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่ง

คำสั่งกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ที่ 483/2566 เรื่อง ให้ยกเลิกคำสั่งและมอบหมายให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกาาปฏิบัติหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่ง

 



 

3 ตุลาคม 2566

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดให้วันที่ ๑๓ ตุลาคม ของทุกปี เป็น "วันนวมินทรมหาราช"

 

หน้า ๒

เล่ม ๑๕ㆍ ตอนพิเศษ ๒๔๔ ง ราชกิจจานุเบกษา

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี

เรื่อง การกำหนดให้วันที่ ๑๓ ตุลาคม ของทุกปี เป็น

"วันนวมินทรมหาราช"

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

มีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่อาณาประชาราษฎร์ ตลอดรัชสมัยของพระองค์

ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการเพื่อความวิวัฒน์พัฒนาของชาติบ้านเมือง

เป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์และยังความผาสุกร่มเย็นแก่ผองพสกนิกรชาวไทย พระเกียรติคุณ

เป็นที่แช่ซ้องก้องประจักษ์ทั้งแก่ปวงชนชาวไทยและนานาอารยประเทศ แม้การเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่

๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ จะล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน พสกนิกรทุกหมู่เหล่ายังล้วนคำนึงถึง

ด้วยความสำนึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างไม่รู้ลืมเลือน เพื่อให้วันคล้ายวันสวรรคต

เป็นวันแห่งการร่วมรำลึกและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แห่งพระมหากษัตริย์

ผู้ทรงมีคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่แผ่นดิน ประกอบกับวันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ จะเป็น

วันแห่งการเสด็จสวรรคตครบ ๗ ปี หรือ "สัตตมวรรษ" รัฐบาลจึงได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา

ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยเกี่ยวกับการกำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จ

พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดซมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก มีพระดำริประทานชื่อวันดังกล่าวเพื่อประกอบ

พระบรมราชวินิจฉัย ว่า "วันนานทรมหาราช" (อ่านว่า นะ-วะ-มิน-ทระ-มะ-หา-ราด) แปลว่า

วันที่ระลึกถึงพระมหาราชรัซกาลที่ ๙ ผู้ยิ่งใหญ่ การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

ให้กำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

บรมนาถบพิตร ว่า "วันนวมินทรมหาราช" ตามที่รัฐบาลได้ขอพระราชทานพระมหากรุณา

จึงกำหนดให้วันที่ ๑๓ ตุลาคม ของทุกปี เป็น "วันนวมินทรมหาราช"

บัดนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๖ รับทราบการกำหนดให้วันที่

๑๓ ตุลาคม ของทุกปี เป็น "วันนวมินทรมหาราช"

ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖

เศรษฐา ทวีสิน

นายกรัฐมนตรี

๒ ตุลาคม ๒๕๖๖


21 กันยายน 2566

สี

สีโทนร้อน” หมายถึง ชุดสีที่ประกอบด้วย สีส้มเหลือง สีส้ม สีส้มแดง สีแดง และสีม่วงแดง สีวรรณะร้อนให้ความรู้สึกตื่นตา มีพลัง อบอุ่น สนุกสนาน และดึงดูดความสนใจได้ดี

“สีโทนเย็น” หมายถึง ชุดสีที่ประกอบด้วยสีเขียวเหลือง สีเขียว สีเขียวน้ำเงิน สีน้ำเงิน และสีม่วงน้ำเงิน โครงสีเย็นให้ความรู้สึกสุภาพ สงบ ลึกลับ เยือกเย็น

กรณีตัวอย่างความผิดทางวินัยที่ได้ดำเนินการลงโทษไปแล้วของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

กรณีตัวอย่างความผิดทางวินัยที่ได้ดำเนินการลงโทษไปแล้วของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ความผิดเกี่ยวกับนักเรียน 1. พูดนอกเรื่อง พูดสัปดน ...